พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
เข้าสู่ระบบ
หน้าแรก
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ค้นหาข้อมูล
เข้าสู่ระบบ
#เหรียญกรมหลวงช...
#เหรียญกรมหลวงชุมพรฯหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่าออกที่วัดหัวตะพานปี2547
#เหรียญกรมหลวงชุมพรฯหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่าออกที่วัดหัวตะพานปี2547“#หลวงปู่ศุขเกจิขลังมีพลังฤทธิ์ปาฏิหาริย์ #แฝงนัยยะเหรียญวัดหัวตะพาน #เสด็จในกรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์ ปี ๔๗”
…หลวงปู่ นามเดิมท่านชื่อ ศุข นามสกุล เกษเวช ต่อมาลูกหลานได้ใช้นามสกุลว่า เกษเวชสุริยา ท่านเกิดเมื่อวันจันทร์ เดือน ๔ ปีวอก พ.ศ.๒๓๙๐ ที่บ้านมะขามเฒ่า ต.มะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท โดยมีบิดาชื่อนายน่วม มารดาชื่อนาง ทองดี ตั้งบ้านเรือนอยู่ ที่ ตำบลมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท โดยมีพี่น้องรวม ๙ คนคือ ๑.หลวงปู่ศุข ๒.นางอ่ำ ๓.นายรุ่ง ๔.นายไข่ ๕.นาง สิน ๖.นายมี ๗.นางขำ ๘.นายพลอย ๙.หลวงพ่อปลื้ม
หลวงปู่ศุขท่านไปอยู่กับลุงแฟง ที่ตำบลบางเขน จังหวัดพระนคร มีอาชีพทำสวนเมื่อเจริญเติบโตเป็นหนุ่มได้มีภรรยา ชื่อสมบุญ และมีบุตร ๑ คนชื่อนายสอน เกสเวชสุริยา
เมื่ออายุประมาณ ๒๕ ปีหลวงปู่ศุขได้อุปสมบทที่วัดบางเขน(หรือปัจจุบันชื่อว่า วัดโพธิ์ทองล่าง จังหวัดนนทบุรี) โดยมีพระครู เชย จนฺทสิริ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระถมยา เป็นพระคู่สวดเมื่ออุปสมบทแล้วได้ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยและพระกรรมฐานอยู่กับพระอุปัชฌาย์
และได้ลาพระอุปัชฌาย์ออกธุดงค์ตามป่าเขาลำเนาไพรทั่วทุกภูมิภาค เพื่อเจริญจิตภาวนาและแสวงหาครูอาจารย์ที่มีวิชาอาคมแก่กล้าตามสถานที่ต่างๆ มากมาย ทำให้หลวงปู่ศุขมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทุกสารทิศเรื่องวิชาอาคมเข้มขลัง
และเมื่อท่านเดินธุดงค์ไปภาคเหนือก็แวะเยี่ยมโยมพ่อโยมแม่ที่ ตำบลมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท โดยไปพักที่วัดร้างแห่งหนึ่งชื่อ “วัดอู่ทอง” โยมแม่ของท่านจึงนิมนต์ให้ท่านจำพรรษาที่วัดร้างแห่งนั้น เพื่อโปรดโยมแม่และญาติ เมื่อท่านอยู่ที่วัดร้างก็ได้พัฒนาวัดร้างให้เจริญรุ่งเรืองมาโดยลำดับ ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเรียกตามหมู่บ้านว่า“ วัดปากคลองมะขามเฒ่า” จนถึงทุกวันนี้
หลวงปู่ศุข มรณภาพเมื่อ ๒๓ ธันวาคม ๒๔๖๖ ( เดือนอ้ายปีกุน) อายุ ๗๖ ปี หลวงปู่ศุขเป็นพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติสำเร็จธรรม ขั้นสูงระดับอภิญญาสมาบัติกสิน ๑๐ ธาตุ ๔ จนสามารถแสดงฤทธิปาฏิหาริย์ได้ เช่น เสกหัวปลีให้เป็นกระต่าย เสกใบมะขามให้เป็นต่อเป็นแตน เสกคนให้เป็นจระเข้เสกกะลาครอบช้าง เสกก้านกล้วยให้เป็นงู ฯลฯ เสด็จในกรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์ ราชโอรสในสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว หรือ ร.๕ ได้เสด็จมาทางเรือเพื่อขึ้นไปภาคเหนือบังเอิญเรือพระที่นั่งเกิดเครื่องเรือ ขัดข้องตรงหน้าวัดปากคลองมะขามเฒ่าพอดี ขณะที่ช่างกำลังซ่อมเครื่องเรือ กรมหลวงชุมพรฯ ได้ทอดพระเนตรไปบนฝั่งแม่น้ำหน้าวัด ก็เห็นพระภิกษุได้เสกหัวปลีให้เป็นกระต่ายให้เด็ก ๆ วิ่งขับ พอจับกระต่ายได้ก็กลายเป็นหัวปลี พระองค์ก็สนพระทัยจึงให้เทียบเรือเข้าฝั่งแล้วก็ได้ไปพูดคุยกับพระภิกษุรูป นั้น จึงทราบว่า ท่านคือหลวงปู่ศุข เจ้าอาวาสวัดปากคลองมะขามเฒ่านั่นเอง การสนทนากันนั้นถูกอัธยาศัย หลวงปู่ศุขยังบอกด้วยว่านอกจากเสกหัวปลีให้เป็นกระต่ายแล้วยังมีอีกหลาย อย่างที่ทำได้ เช่นเสกคนให้เป็นเจระเข้ เสกใบมะขามให้เป็นตัวต่อ ตัวแตน ฯ กรมหลวงชุมพรฯก็ได้พิสูจน์โดยนำทหารที่ติดตามมาลองให้หลวงปู่ศุขเสกให้เป็น จระเข้ เพียงหลวงปู่ศุขนำน้ำมนต์รดไปที่ทหารคนนั้นก็กลายเป็นจระเข้ทันที ทุกคนตลึงไม่น่าเชื่อสายตาว่าเป็นไปได้ แต่ก็เป็นจริง ๆ ดังที่เห็นทุกอย่าง ในที่สุดกรมหลวงชุมพรฯจึงถวายพระองค์เป็นศิษย์ เล่าเรียนวิชาอาคมทุกอย่างจากหลวงปู่ศุข นับถือหลวงปู่ศุขเป็นพระอาจารย์แม้แต่ในวังของพระองค์ท่านก็สร้างกุฏิสำหรับ หลวงปู่ศุข ไปพักที่วังความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ทั้งพระอาจารย์และลูกศิษย์ ยังเป็นที่เคารพนับถือบูชาของประชาชนอยู่จนถึงทุกวันนี้ ไปที่ไหน ๆ ก็จะเห็นว่าที่ใดมีหลวงปู่ศุข ก็จะต้องมี กรมหลวงชุมพรฯคู่กันที่นั่นเสมอ เพราะเป็นอาจารย์และศิษย์คู่บุญคู่บารมีอย่างแท้จริงกรมหลวงชุมพรฯ สิ้นพระชนม์ เมื่อ ๑๙ พฤษภาคม ๒๔๖๖ พระชนมายุเพียง ๔๕ พรรษา
วัตถุมงคล ของหลวงปู่ศุข แต่ละรุ่นล้วนเป็นที่นิยมของประชาชนและหายาก แต่ละรุ่นแต่ละพิมพ์มีราคาสูงแม้แต่รุ่นใหม่ ๆ ก็เป็นที่ต้องการบูชาของประชาชนทั่วไป เพราะมีความเชื่อถือและศรัทธาในความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างยิ่งทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าในด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพัน ฯ ล้วนมีประสบการณ์ ทุกรุ่นไม่ว่าใหม่หรือเก่าก็ตาม
หลวงปู่ศุข...#ทำไมมาอยู่วัดหัวตะพาน?
เมื่อปี พ.ศ.2535 อาตมา(พระอาจารย์ดำเนิน ถามวโร) มาอยู่ที่วัดหัวตะพานในระหว่างเข้าพรรษา ตอนเช้ามืดวันหนึ่งได้ฝ้นเห็น หลวงปู่ศุข มายืนถือไม้เท้าอยู่ที่หัวนอน มาพูดว่า
“สงฆ์... สงฆ์...เป็นคนทำอะไร ทำจริง ทำอะไรก็สำเร็จ......เดี๋ยว...หลวงปู่มาช่วย....”
เมื่อกาลเวลาผ่านไปอีกไม่กี่วันก็ฝันเห็นอีก....คราวนี้หลวงปู่ศุข...ก็มาสอนวิธีทำพระผง...
ให้ผสมผงที่จะทำพระให้เข้ากันแล้ว ให้เอาน้ำมันตังอิ๊วผสมให้เข้ากัน....แล้วให้เอาเนื้อผงพระ
นั้นมาใส่มือกำเอาไว้....สักครู่...ให้ภาวนาคาถาทำจิตให้นิ่งเป็นสมาธิ...เมื่อเนื้อผงพระนั้นร้อนจี๊ด...
ขึ้นมา...ก็ให้เอาก้อนนั้นมาพิมพ์เป็นพระได้.....แต่ถ้าก้อนไหนเย็น....ให้ทิ้งไป.......
ประมาณกลางพรรษานั้นได้ฝันเห็นอีกครั้ง....หลวงปู่ศุข....มาสอนคาถานะฤาชามหาเมตตา
พร้อมยันต์นะฤาชา....ที่หลวงปู่ศุขบอกให้ใช้เป็นประจำ
เมื่อออกพรรษาแล้วก็ได้ไปขออนุญาตจากหลวงพ่อสำราญ เจ้าอาวาสวัดปากคลอง-มะขามเฒ่า สร้างวัตถุมงคลรูปแบบต่าง ๆ ขึ้นมาและได้ทำพิธีพุทธาภิเษก ณ วัดหัวตะพาน
โดย หลวงพ่อสำราญ เจ้าอาวาสวัดปากคลองมะขามเฒ่า มาเป็นประธานพิธีพร้อมเกจิอาจารย์
อีกหลายรูป......ทางวัดหัวตะพานได้เปิดให้บูชาวัตถุมงคล...รายได้นำมาสร้างศาลาการเปรียญ
สร้างเมรุ ฯ หล่อรูปเหมือนเท่าองค์จริง...เอาไว้ให้ญาติโยมได้มาสักการะกราบไหว้.....และได้
ให้ช่างทำหุ่นขี้ผึ้งรูปเหมือนจริงตามที่ฝันเห็น.....เท่าองค์จริง เป็นที่กราบไหว้ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
เมื่อปี พ.ศ. 2539 ฝันเห็นหลวงปู่ศุข....ก็ได้ขอเรียนวิชาต่าง ๆ ที่หลวงปู่ได้..เมตตาสอนให้....
เช่น คาถาเมตตา คาถาแคล้วคลาด .....ยกเว้น คาถาเสกใบมะขามเป็นต่อเป็นแตน...หลวงปู่ไม่ให้...
แต่...บอกว่า....ให้แก่อีกหน่อย
ตั้งแต่ปี พ.ศ.2535 เป็นต้นมาจึงปรากฏว่า หลวงปู่ศุข เสมือนว่ามาอยู่ที่วัดหัวตะพาน
ญาติโยมก็แวะเข้ากราบไหว้...ขอพรบารมี....หลวงปู่ศุข - กรมหลวงชุมพรฯ เป็นประจำทุก ๆ วัน
ต่างก็ประสบความสมปรารถนา ในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านธุรกิจ บ้างก็เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง
บางคนก็มีโชคลาภ บางท่านก็มาขอลูก บางท่านก็แคล้วคลาดปลอดภัย ฯลฯ
ด้วยบุญบารมีของหลวงปู่ศุข ทำให้วัดหัวตะพานได้พัฒนาขึ้นมาเป็นลำดับ...ทางวัดหัวตะพานจึงได้จัดสร้างอนุสรณ์สถานประกาศเกียรติคุณบารมีให้หลวงปู่ศุข คือ
เมื่อปี พ.ศ. 2547 วัดหัวตะพานได้จัดสร้าง หลวงปู่ศุข ยืนถือไม้เท้าองค์ใหญ่ที่สุดในโลก
เมื่อปี พ.ศ. 2548 จัดสร้างพระประจำวันเกิด(วันจันทร์)ของหลวงปู่ศุข องค์ใหญ่ฯ
เมื่อปี พ.ศ. 2549 จัดสร้าง กรมหลวงชุมพรฯ องค์ใหญ่ฯ
ทั้งหมดนี้ สื่อถึงความสัมพันธ์ระหว่างหลวงปู่กับวัดหัวตะพานได้อย่างชัดเจน…!!!!...สนใจอยากได้ไว้บูชาโทรถามโจโฉครับ....089-9043162
ผู้เข้าชม
639 ครั้ง
ราคา
-
สถานะ
มาใหม่
โดย
jocho
ชื่อร้าน
โจโฉพระเครื่อง
ร้านค้า
jocho.99wat.com
โทรศัพท์
0899043162
ไอดีไลน์
-
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารกรุงไทย / 121-1-46621-3
พระชุดเนื้อผงหลวงพ่อคูณวัดบ้าน
ผ้ายันต์หลวงพ่อเดิมรุ่นเสาร์5ว
พระบูชาพระพุทธชินราชหน้าตัก5นิ
รูปถ่ายพระบูชาท่านเจ้าคุณนรฯวั
โอมศรีคเณศายะนะมะฮา พระพิฆเน
พระปรกใบมะขามหลวงพ่อโตวัดหลัก
เหรียญ พระเทพวงศาจารย์ แกล ว
พระกริ่ง ภปร ปี2508 วัดบวร
สมเด็จคะแนนมหาลาภวัดห้วยทรายใต
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
ลงพระฟรี
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ลืมรหัสผ่าน
ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
mon37
Manas094
Le29Amulet
ยุ้ย พลานุภาพ
ทองธนบุรี
ภูมิ IR
gorn9
chaithawat
แหลมร่มโพธิ์
นิสสันพระเครื่องหนองคาย
ก้อง วัฒนา
TotoTato
someman
Netnapa
Mannan4747
pratharn_p
Kshop
fuchoo18
ศรัทธา
มนต์เมืองจันท์
พล ปากน้ำ
nattapong939
ep8600
แมวดำ99
พระเครื่องโคกมน
aofkolok
kaew กจ.
stp253
เทพจิระ
หมี คุณพระช่วย
ผู้เข้าชมขณะนี้ 790 คน
เพิ่มข้อมูล
#เหรียญกรมหลวงชุมพรฯหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่าออกที่วัดหัวตะพานปี2547
ส่งข้อความ
ชื่อพระเครื่อง
#เหรียญกรมหลวงชุมพรฯหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่าออกที่วัดหัวตะพานปี2547
รายละเอียด
#เหรียญกรมหลวงชุมพรฯหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่าออกที่วัดหัวตะพานปี2547“#หลวงปู่ศุขเกจิขลังมีพลังฤทธิ์ปาฏิหาริย์ #แฝงนัยยะเหรียญวัดหัวตะพาน #เสด็จในกรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์ ปี ๔๗”
…หลวงปู่ นามเดิมท่านชื่อ ศุข นามสกุล เกษเวช ต่อมาลูกหลานได้ใช้นามสกุลว่า เกษเวชสุริยา ท่านเกิดเมื่อวันจันทร์ เดือน ๔ ปีวอก พ.ศ.๒๓๙๐ ที่บ้านมะขามเฒ่า ต.มะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท โดยมีบิดาชื่อนายน่วม มารดาชื่อนาง ทองดี ตั้งบ้านเรือนอยู่ ที่ ตำบลมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท โดยมีพี่น้องรวม ๙ คนคือ ๑.หลวงปู่ศุข ๒.นางอ่ำ ๓.นายรุ่ง ๔.นายไข่ ๕.นาง สิน ๖.นายมี ๗.นางขำ ๘.นายพลอย ๙.หลวงพ่อปลื้ม
หลวงปู่ศุขท่านไปอยู่กับลุงแฟง ที่ตำบลบางเขน จังหวัดพระนคร มีอาชีพทำสวนเมื่อเจริญเติบโตเป็นหนุ่มได้มีภรรยา ชื่อสมบุญ และมีบุตร ๑ คนชื่อนายสอน เกสเวชสุริยา
เมื่ออายุประมาณ ๒๕ ปีหลวงปู่ศุขได้อุปสมบทที่วัดบางเขน(หรือปัจจุบันชื่อว่า วัดโพธิ์ทองล่าง จังหวัดนนทบุรี) โดยมีพระครู เชย จนฺทสิริ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระถมยา เป็นพระคู่สวดเมื่ออุปสมบทแล้วได้ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยและพระกรรมฐานอยู่กับพระอุปัชฌาย์
และได้ลาพระอุปัชฌาย์ออกธุดงค์ตามป่าเขาลำเนาไพรทั่วทุกภูมิภาค เพื่อเจริญจิตภาวนาและแสวงหาครูอาจารย์ที่มีวิชาอาคมแก่กล้าตามสถานที่ต่างๆ มากมาย ทำให้หลวงปู่ศุขมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทุกสารทิศเรื่องวิชาอาคมเข้มขลัง
และเมื่อท่านเดินธุดงค์ไปภาคเหนือก็แวะเยี่ยมโยมพ่อโยมแม่ที่ ตำบลมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท โดยไปพักที่วัดร้างแห่งหนึ่งชื่อ “วัดอู่ทอง” โยมแม่ของท่านจึงนิมนต์ให้ท่านจำพรรษาที่วัดร้างแห่งนั้น เพื่อโปรดโยมแม่และญาติ เมื่อท่านอยู่ที่วัดร้างก็ได้พัฒนาวัดร้างให้เจริญรุ่งเรืองมาโดยลำดับ ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเรียกตามหมู่บ้านว่า“ วัดปากคลองมะขามเฒ่า” จนถึงทุกวันนี้
หลวงปู่ศุข มรณภาพเมื่อ ๒๓ ธันวาคม ๒๔๖๖ ( เดือนอ้ายปีกุน) อายุ ๗๖ ปี หลวงปู่ศุขเป็นพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติสำเร็จธรรม ขั้นสูงระดับอภิญญาสมาบัติกสิน ๑๐ ธาตุ ๔ จนสามารถแสดงฤทธิปาฏิหาริย์ได้ เช่น เสกหัวปลีให้เป็นกระต่าย เสกใบมะขามให้เป็นต่อเป็นแตน เสกคนให้เป็นจระเข้เสกกะลาครอบช้าง เสกก้านกล้วยให้เป็นงู ฯลฯ เสด็จในกรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์ ราชโอรสในสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว หรือ ร.๕ ได้เสด็จมาทางเรือเพื่อขึ้นไปภาคเหนือบังเอิญเรือพระที่นั่งเกิดเครื่องเรือ ขัดข้องตรงหน้าวัดปากคลองมะขามเฒ่าพอดี ขณะที่ช่างกำลังซ่อมเครื่องเรือ กรมหลวงชุมพรฯ ได้ทอดพระเนตรไปบนฝั่งแม่น้ำหน้าวัด ก็เห็นพระภิกษุได้เสกหัวปลีให้เป็นกระต่ายให้เด็ก ๆ วิ่งขับ พอจับกระต่ายได้ก็กลายเป็นหัวปลี พระองค์ก็สนพระทัยจึงให้เทียบเรือเข้าฝั่งแล้วก็ได้ไปพูดคุยกับพระภิกษุรูป นั้น จึงทราบว่า ท่านคือหลวงปู่ศุข เจ้าอาวาสวัดปากคลองมะขามเฒ่านั่นเอง การสนทนากันนั้นถูกอัธยาศัย หลวงปู่ศุขยังบอกด้วยว่านอกจากเสกหัวปลีให้เป็นกระต่ายแล้วยังมีอีกหลาย อย่างที่ทำได้ เช่นเสกคนให้เป็นเจระเข้ เสกใบมะขามให้เป็นตัวต่อ ตัวแตน ฯ กรมหลวงชุมพรฯก็ได้พิสูจน์โดยนำทหารที่ติดตามมาลองให้หลวงปู่ศุขเสกให้เป็น จระเข้ เพียงหลวงปู่ศุขนำน้ำมนต์รดไปที่ทหารคนนั้นก็กลายเป็นจระเข้ทันที ทุกคนตลึงไม่น่าเชื่อสายตาว่าเป็นไปได้ แต่ก็เป็นจริง ๆ ดังที่เห็นทุกอย่าง ในที่สุดกรมหลวงชุมพรฯจึงถวายพระองค์เป็นศิษย์ เล่าเรียนวิชาอาคมทุกอย่างจากหลวงปู่ศุข นับถือหลวงปู่ศุขเป็นพระอาจารย์แม้แต่ในวังของพระองค์ท่านก็สร้างกุฏิสำหรับ หลวงปู่ศุข ไปพักที่วังความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ทั้งพระอาจารย์และลูกศิษย์ ยังเป็นที่เคารพนับถือบูชาของประชาชนอยู่จนถึงทุกวันนี้ ไปที่ไหน ๆ ก็จะเห็นว่าที่ใดมีหลวงปู่ศุข ก็จะต้องมี กรมหลวงชุมพรฯคู่กันที่นั่นเสมอ เพราะเป็นอาจารย์และศิษย์คู่บุญคู่บารมีอย่างแท้จริงกรมหลวงชุมพรฯ สิ้นพระชนม์ เมื่อ ๑๙ พฤษภาคม ๒๔๖๖ พระชนมายุเพียง ๔๕ พรรษา
วัตถุมงคล ของหลวงปู่ศุข แต่ละรุ่นล้วนเป็นที่นิยมของประชาชนและหายาก แต่ละรุ่นแต่ละพิมพ์มีราคาสูงแม้แต่รุ่นใหม่ ๆ ก็เป็นที่ต้องการบูชาของประชาชนทั่วไป เพราะมีความเชื่อถือและศรัทธาในความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างยิ่งทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าในด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพัน ฯ ล้วนมีประสบการณ์ ทุกรุ่นไม่ว่าใหม่หรือเก่าก็ตาม
หลวงปู่ศุข...#ทำไมมาอยู่วัดหัวตะพาน?
เมื่อปี พ.ศ.2535 อาตมา(พระอาจารย์ดำเนิน ถามวโร) มาอยู่ที่วัดหัวตะพานในระหว่างเข้าพรรษา ตอนเช้ามืดวันหนึ่งได้ฝ้นเห็น หลวงปู่ศุข มายืนถือไม้เท้าอยู่ที่หัวนอน มาพูดว่า
“สงฆ์... สงฆ์...เป็นคนทำอะไร ทำจริง ทำอะไรก็สำเร็จ......เดี๋ยว...หลวงปู่มาช่วย....”
เมื่อกาลเวลาผ่านไปอีกไม่กี่วันก็ฝันเห็นอีก....คราวนี้หลวงปู่ศุข...ก็มาสอนวิธีทำพระผง...
ให้ผสมผงที่จะทำพระให้เข้ากันแล้ว ให้เอาน้ำมันตังอิ๊วผสมให้เข้ากัน....แล้วให้เอาเนื้อผงพระ
นั้นมาใส่มือกำเอาไว้....สักครู่...ให้ภาวนาคาถาทำจิตให้นิ่งเป็นสมาธิ...เมื่อเนื้อผงพระนั้นร้อนจี๊ด...
ขึ้นมา...ก็ให้เอาก้อนนั้นมาพิมพ์เป็นพระได้.....แต่ถ้าก้อนไหนเย็น....ให้ทิ้งไป.......
ประมาณกลางพรรษานั้นได้ฝันเห็นอีกครั้ง....หลวงปู่ศุข....มาสอนคาถานะฤาชามหาเมตตา
พร้อมยันต์นะฤาชา....ที่หลวงปู่ศุขบอกให้ใช้เป็นประจำ
เมื่อออกพรรษาแล้วก็ได้ไปขออนุญาตจากหลวงพ่อสำราญ เจ้าอาวาสวัดปากคลอง-มะขามเฒ่า สร้างวัตถุมงคลรูปแบบต่าง ๆ ขึ้นมาและได้ทำพิธีพุทธาภิเษก ณ วัดหัวตะพาน
โดย หลวงพ่อสำราญ เจ้าอาวาสวัดปากคลองมะขามเฒ่า มาเป็นประธานพิธีพร้อมเกจิอาจารย์
อีกหลายรูป......ทางวัดหัวตะพานได้เปิดให้บูชาวัตถุมงคล...รายได้นำมาสร้างศาลาการเปรียญ
สร้างเมรุ ฯ หล่อรูปเหมือนเท่าองค์จริง...เอาไว้ให้ญาติโยมได้มาสักการะกราบไหว้.....และได้
ให้ช่างทำหุ่นขี้ผึ้งรูปเหมือนจริงตามที่ฝันเห็น.....เท่าองค์จริง เป็นที่กราบไหว้ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
เมื่อปี พ.ศ. 2539 ฝันเห็นหลวงปู่ศุข....ก็ได้ขอเรียนวิชาต่าง ๆ ที่หลวงปู่ได้..เมตตาสอนให้....
เช่น คาถาเมตตา คาถาแคล้วคลาด .....ยกเว้น คาถาเสกใบมะขามเป็นต่อเป็นแตน...หลวงปู่ไม่ให้...
แต่...บอกว่า....ให้แก่อีกหน่อย
ตั้งแต่ปี พ.ศ.2535 เป็นต้นมาจึงปรากฏว่า หลวงปู่ศุข เสมือนว่ามาอยู่ที่วัดหัวตะพาน
ญาติโยมก็แวะเข้ากราบไหว้...ขอพรบารมี....หลวงปู่ศุข - กรมหลวงชุมพรฯ เป็นประจำทุก ๆ วัน
ต่างก็ประสบความสมปรารถนา ในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านธุรกิจ บ้างก็เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง
บางคนก็มีโชคลาภ บางท่านก็มาขอลูก บางท่านก็แคล้วคลาดปลอดภัย ฯลฯ
ด้วยบุญบารมีของหลวงปู่ศุข ทำให้วัดหัวตะพานได้พัฒนาขึ้นมาเป็นลำดับ...ทางวัดหัวตะพานจึงได้จัดสร้างอนุสรณ์สถานประกาศเกียรติคุณบารมีให้หลวงปู่ศุข คือ
เมื่อปี พ.ศ. 2547 วัดหัวตะพานได้จัดสร้าง หลวงปู่ศุข ยืนถือไม้เท้าองค์ใหญ่ที่สุดในโลก
เมื่อปี พ.ศ. 2548 จัดสร้างพระประจำวันเกิด(วันจันทร์)ของหลวงปู่ศุข องค์ใหญ่ฯ
เมื่อปี พ.ศ. 2549 จัดสร้าง กรมหลวงชุมพรฯ องค์ใหญ่ฯ
ทั้งหมดนี้ สื่อถึงความสัมพันธ์ระหว่างหลวงปู่กับวัดหัวตะพานได้อย่างชัดเจน…!!!!...สนใจอยากได้ไว้บูชาโทรถามโจโฉครับ....089-9043162
ราคาปัจจุบัน
-
จำนวนผู้เข้าชม
640 ครั้ง
สถานะ
มาใหม่
โดย
jocho
ชื่อร้าน
โจโฉพระเครื่อง
URL
http://www.jocho.99wat.com
เบอร์โทรศัพท์
0899043162
ID LINE
-
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารกรุงไทย / 121-1-46621-3
กำลังโหลดข้อมูล
หน้าแรกลงพระฟรี